การสร้างจิตสำนึกความปลอดภัยในการทำงาน - เซฟตี้อินไทย
อบรมหลักสูตรฟรี สำหรับสมาชิก          คลิกที่นี่

บทความ

การสร้างจิตสำนึกความปลอดภัยในการทำงาน



การสร้างจิตสำนึกความปลอดภัยในการทำงาน เป็นหัวใจสำคัญในการลดอุบัติเหตุและสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน ไม่ใช่เพียงแค่การปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่เป็นการปลูกฝังให้ความปลอดภัยเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร


การสร้างจิตสำนึกความปลอดภัยในการทำงาน

การสร้างจิตสำนึกความปลอดภัยเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความพยายาม แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือการลดอุบัติเหตุ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและมีความสุขสำหรับทุกคน




ทำไมจิตสำนึกความปลอดภัยจึงสำคัญ ?

  • ลดอุบัติเหตุ การมีจิตสำนึกความปลอดภัยจะช่วยให้พนักงานระมัดระวังในการทำงานมากขึ้น ลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุที่อาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เมื่อพนักงานรู้สึกปลอดภัย พวกเขาจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ต้องกังวลกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
  • ลดต้นทุน อุบัติเหตุในการทำงานมักก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายที่สูง ทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชย และค่าเสียหายอื่นๆ การป้องกันอุบัติเหตุจึงเป็นการลดต้นทุนให้กับองค์กร
  • สร้างภาพลักษณ์ที่ดี องค์กรที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยจะได้รับภาพลักษณ์ที่ดีจากลูกค้า พนักงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ


สาเหตุสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุ

เราเห็นได้ชัดว่า การกระทำที่ไม่ปลอดภัยของบุคคล เป็นปัจจัยหลักที่นำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุถึง 88% ซึ่งสูงกว่าปัจจัยอื่น ๆ อย่างมาก นั่นหมายความว่า พฤติกรรมของคนเรานั้นมีส่วนสำคัญในการป้องกันหรือก่อให้เกิดอุบัติเหตุ




ปัจจัยการเกิดอุบัติเหตุ


ACCIDENT = HAZARD SOURCE * RECEIVER * CONTACT

อุบัติเหตุ = แหล่งอันตราย x ผู้รับอันตราย x การสัมผัส


สูตรนี้เป็นการบ่งบอกถึงปัจจัยหลัก 3 ประการที่นำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นหลักการพื้นฐานที่ใช้ในการศึกษาและป้องกันอุบัติเหตุ


1. แหล่งอันตราย (Hazard Source)

  • คืออะไร สิ่งของ สถานที่ หรือสภาวะที่อาจก่อให้เกิดอันตราย เช่น เครื่องจักรที่ชำรุด วัสดุอันตราย พื้นลื่น สภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม
  • ตัวอย่าง ไฟฟ้าช็อต, สะดุดล้ม, ถูกของหนักทับ, สารเคมีรั่วไหล
2. ผู้รับอันตราย (Receiver)

  • คืออะไร บุคคลที่อาจได้รับอันตรายจากแหล่งอันตราย เช่น พนักงาน ผู้ปฏิบัติงาน ผู้ใช้บริการ
  • ตัวอย่าง คนงานในโรงงาน, คนขับรถ, ผู้เดินเท้า
3. การสัมผัส (Contact)

  • คืออะไร การที่แหล่งอันตรายและผู้รับอันตรายมาสัมผัสกัน ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น
  • ตัวอย่าง มือสัมผัสกับใบมีด, ร่างกายสัมผัสกับไฟฟ้า, รถชนกัน

โดยสรุป สูตร อุบัติเหตุ = แหล่งอันตราย x ผู้รับอันตราย x การสัมผัส ช่วยให้เราเข้าใจถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างชัดเจน และสามารถนำไปใช้ในการวางแผนและดำเนินการป้องกันอุบัติเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คุณค่าของความปลอดภัย




1. ความปลอดภัย เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา

- ความหมาย ทุกคนต้องการมีชีวิตที่ปราศจากอันตราย ทั้งทางกายและใจ

- ตัวอย่าง การมีบ้านที่ปลอดภัย, การเดินทางโดยสวัสดิภาพ, การทำงานในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ

2. ความปลอดภัย เป็นการเสริมสร้างคุณภาพชีวิต

- ความหมาย ความปลอดภัยช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

- ตัวอย่าง เมื่อเรารู้สึกปลอดภัย เราจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่, พักผ่อนได้อย่างสบายใจ, และสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ดีขึ้น

3. ความปลอดภัย เป็นคุณธรรม

- ความหมาย การให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น เป็นการแสดงออกถึงคุณธรรม เช่น ความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจ

ตัวอย่าง การขับรถด้วยความระมัดระวัง, การช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน

4. ความปลอดภัย เป็นการประกันชีวิตที่ดีที่สุด

- ความหมาย การป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุหรืออันตราย เป็นการประกันชีวิตที่คุ้มค่าที่สุด

- ตัวอย่างการตรวจสุขภาพเป็นประจำ, การออกกำลังกาย, การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง


5. ความปลอดภัย เป็นการสร้างมาตรฐานที่แน่นอน

- ความหมาย การมีมาตรฐานความปลอดภัยที่ชัดเจน จะช่วยให้ทุกคนปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง

- ตัวอย่าง มาตรฐานความปลอดภัยในการทำงาน, มาตรฐานความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน


ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อทุกคน ทุกสังคม และทุกองค์กร การให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ไม่เพียงแต่จะช่วยปกป้องชีวิตและทรัพย์สิน แต่ยังเป็นการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับทุกคนด้วยค่ะ


ทำไมต้องเรียนรู้ความปลอดภัย ?

การเรียนรู้เรื่องความปลอดภัยนั้นสำคัญมาก และเป็นสิ่งที่เราควรทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่เฉพาะช่วงเริ่มต้นทำงานหรือเรียนรู้ครั้งแรกเท่านั้น เหตุผลที่เราต้องเรียนรู้ความปลอดภัยตลอดเวลา มีดังนี้ค่ะ



1. ความรู้เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

  • เทคโนโลยีใหม่ มีการพัฒนาเครื่องมือ อุปกรณ์ และกระบวนการทำงานใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ซึ่งแต่ละอย่างก็มาพร้อมกับความเสี่ยงและวิธีการป้องกันที่แตกต่างกันออกไป
  • กฎระเบียบใหม่ กฎหมายและข้อบังคับด้านความปลอดภัยมีการปรับปรุงอยู่เสมอ เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง
  • ความรู้ใหม่ มีการค้นพบข้อมูลและวิธีการป้องกันอันตรายใหม่ๆ อยู่เสมอ การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จะช่วยให้เราสามารถป้องกันตัวเองและผู้อื่นได้ดียิ่งขึ้น
2. ประสบการณ์เปลี่ยนแปลง

  • สถานการณ์ใหม่ เราต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละวัน การเรียนรู้จากประสบการณ์จะช่วยให้เราสามารถปรับตัวและรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ดียิ่งขึ้น
  • บทเรียนจากอุบัติเหตุ การเกิดอุบัติเหตุเป็นบทเรียนที่สำคัญในการเรียนรู้และปรับปรุงวิธีการทำงานของเรา
  • การพัฒนาตนเองประสบการณ์ที่ได้รับจะช่วยให้เราพัฒนาทักษะและความรู้ความสามารถในการทำงานได้ดียิ่งขึ้น
3. เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลง

  • เครื่องจักรและอุปกรณ์ เทคโนโลยีเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ มีการพัฒนาให้มีความซับซ้อนมากขึ้น การเรียนรู้วิธีการใช้งานและการป้องกันอันตรายจากเครื่องจักรเหล่านี้จึงเป็นสิ่งจำเป็น
  • สารเคมี มีการพัฒนาวัสดุและสารเคมีชนิดใหม่ๆ ซึ่งอาจมีอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม การเรียนรู้วิธีการจัดเก็บและใช้งานสารเคมีเหล่านี้อย่างปลอดภัยจึงมีความสำคัญ


หลัก 3E เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

หลัก 3E เป็นแนวทางที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย โดยมุ่งเน้นไปที่การป้องกันอุบัติเหตุตั้งแต่ต้นทาง มาทำความเข้าใจถึงหลักการแต่ละข้อกันอย่างละเอียด พร้อมทั้งยกตัวอย่างที่เป็นประโยชน์ในการนำไปปฏิบัติจริง



1. Engineering (วิศวกรรมศาสตร์)
ความหมาย การออกแบบและปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานให้ปลอดภัย โดยใช้หลักการทางวิศวกรรม
ตัวอย่าง
การออกแบบเครื่องจักร: ออกแบบเครื่องจักรให้มีระบบป้องกันอันตราย เช่น สวิตช์ฉุกเฉิน, ป้องกันการบาดเจ็บจากส่วนที่เคลื่อนไหว
การจัดวางพื้นที่ทำงาน: จัดวางพื้นที่ทำงานให้เป็นระเบียบ มีทางเดินที่ปลอดโปร่ง ป้องกันการสะดุดล้ม
การติดตั้งระบบระบายอากาศ: ในพื้นที่ที่มีสารเคมีหรือฝุ่นละออง ควรมีระบบระบายอากาศที่ดี
การใช้แสงสว่าง: ให้แสงสว่างเพียงพอในทุกพื้นที่ทำงาน เพื่อลดความผิดพลาดในการทำงาน
จุดประสงค์: ลดความเสี่ยงจากแหล่งกำเนิดอันตรายโดยตรง


2. Education (การศึกษา)
ความหมาย การให้ความรู้และฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับความปลอดภัย
ตัวอย่าง
การอบรมความปลอดภัย: อบรมให้พนักงานรู้จักอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ทำงาน วิธีการป้องกันตนเอง และการใช้เครื่องมือป้องกันส่วนบุคคล (PPE)
การสื่อสาร: สื่อสารนโยบายและข้อกำหนดด้านความปลอดภัยให้พนักงานทราบอย่างชัดเจน
การสร้างจิตสำนึก: สร้างจิตสำนึกให้พนักงานตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัย
จุดประสงค์: เพิ่มความรู้และทักษะให้พนักงานสามารถป้องกันตนเองและผู้อื่นได้


3. Enforcement (การออกกฎข้อบังคับ)
ความหมาย การกำหนดกฎระเบียบและมาตรการบังคับใช้ เพื่อให้พนักงานปฏิบัติตาม
ตัวอย่าง
การกำหนดกฎระเบียบ: กำหนดกฎระเบียบในการทำงาน เช่น การสวมใส่ PPE, การห้ามสูบบุหรี่ในพื้นที่ทำงาน
การตรวจสอบ: ตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างสม่ำเสมอ
การลงโทษ: มีมาตรการลงโทษสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบ
จุดประสงค์: บังคับใช้กฎระเบียบเพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนจะปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัย


การนำหลัก 3E ไปใช้ร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยลดอุบัติเหตุและสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย


ารสร้างจิตสำนึกเพื่อความปลอดภัย ให้คงอยู่ตลอดไป

 แนวคิดเหล่านี้เป็นพื้นฐานสำคัญที่สามารถนำไปปรับใช้เพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ


1.  คิดอยู่เสมอว่าอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ป้องกันได้
2. ความเสี่ยงเพียงนิดเดียวก็เกิดอุบัติเหตุได้
3. ผู้ได้รับอุบัติเหตุจะสูญเสียมากที่สุด
4. การทำงานด้วยความเคยชิน ไม่ใช่เป็นหลักป้องกันว่าจะไม่เกิดอุบัติเหตุ
5. ปฏิบัติตามกฎความปลอดภัยให้เป็นนิสัย


6. ความเร่งรีบ หรือรีบร้อนจะทำให้ลืมกฎความปลอดภัย
7. ทุกฝ่ายต้องให้ความร่วมมือในการป้องกันอุบัติเหตุ
8. ฝ่ายบริหารต้องให้ความสำคัญ และให้การสนับสนุน
9. มีการอบรม สัมมนา หรือดูงานความปลอดภัยสม่ำเสมอ
10. การป้องกันอุบัติเหตุต้องกระทำอย่างต่อเนื่อง


สรุป

การสร้างจิตสำนึกเพื่อความปลอดภัยเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความพยายาม แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือการลดอุบัติเหตุ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและมีความสุขสำหรับทุกคน

จิตสำนึกความปลอดภัยในการทำงาน
จองอบรมวันนี้ เฉพาะสมาชิกรับส่วนลดราคาพิเศษ! จองอบรมตอนนี้

Comments


businessman

ติดต่อสอบถามคลิกไลน์ Safety In Thai ติดต่อสอบถามคลิกไลน์ Safety In Thai ติดต่อสอบถามคลิกไลน์ Safety In Thai