มาตรการ COVID-19 ในสถานประกอบกิจการ
มาตรการโควิดในสถานประกอบกิจการ
ประกาศสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน)
เรื่อง คำแนะนำเกี่ยวกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
สำหรับสถานประกอบกิจการ
โดยที่พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554
มาตรา 52 ได้บัญญัติให้มีสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานและกำหนดให้กระทรวงแรงงานจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาเพื่อรับผิดชอบตามกฎหมาย และต่อมาได้มีพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันส่งเสริมความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน(องค์การมหาชน) พ.ศ. 2558 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ ดังนี้
มาตรา 5 ซึ่งบัญญัติให้จัดตั้งสถาบันดังกล่าวขึ้น โดยมีอำนาจหน้าที่ในการส่งเสริมและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน รวมทั้งหน้าที่อื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนดด้วย เนื่องจากสถานการณ์การแพร่กระจายของเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) ซึ่งปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อโรคดังกล่าว เป็นจำนวนมาก และได้แพระบาดอย่างรวดเร็วและรุนแรงไปยังหลายประเทศในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จึงได้จัดทำคำแนะนำเกี่ยวกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) สำหรับสถานประกอบกิจการขึ้น โดยอ้างอิงหลักการจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ ดังนี้
คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบกิจการ
1.1 ควรให้ความรู้ คำแนะนำ หรือจัดหาสื่อประชาสัมพันธ์การป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคกับลูกจ้างในสถานประกอบกิจการ เช่น โปสเตอร์กินร้อน ซ้อนกลาง ลัางมือ การล้างมือที่ถูกวิธี และการสวมหน้ากากอนามัย เป็นต้น
1.2 จัดหาสบู่ เจลล้างมือแอลกอฮอลล์ หรือจัดสถานที่สำหรับล้างมือ ภายในสถานประกอบกิจการ เช่น ประตูทางเข้าห้องทำงาน ประตูทางเข้าไลน์การผลิต ห้องอาหาร ห้องสุขา เป็นต้น เพื่อให้บริการแก่ลูกจ้าง
1.3 จัดหหน้ากากอนามัย สำหรับแจกจ่ายให้แก่ลูกจ้าง รวมทั้งจัดเตรียมน้ำยาทำความสะอาด และ ๗๐% แอลกอฮอลล์ ให้เพียงพอต่อการใช้งาน
1.4 ควรให้การดูแลรักษาเบื้องตัน แก่ลูกจ้างที่พบอาการ เพื่อแยกผู้ป่วยออกจากสถานที่ทำงานหรือไลน์การผลิตที่มีคนรวมกันเป็นจำนวนมาก รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งกลับไปรักษาตัวที่บ้านหรือโรงพยาบาล
1.5 เพิ่มความตระหนักให้กับลูกจ้างทุกคน และรณรงค์ให้ลูกจ้างทุกคนป้องกันตนเองโดยการสวมหน้ากากอนามัยและลงมือก่อนเข้าทำงานและทุกครั้งที่สัมผัสอุปกรณ์สิ่งของเครื่องใช้ที่มีผู้สัมผัสจำนวนมาก
1.6 เพิ่มความตระหนักให้กับพนักงานทำความสะอาดเกี่ยวกับความเสี่ยงในการปนเปื้อนเชื้อโรค โดยให้ความสำคัญในการป้องกันตนเอง เช่น การสวมหน้ากากอนามัยและถุงมือขณะปฏิบัติงาน และการดูแลทำความสะอาดสิ่งของที่ใช้งานบ่อย ๆ เช่น โต๊ะทำงาน คอมพิวเตอร์อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการทำงาน รวมทั้งการทำความสะอาดอุปกรณ์ส่วนรวมอื่นๆ
1.7 จัดให้มีการทำความสะอาดอุปกรณ์ และบริเวณที่มีผู้สัมผัสปริมาณมากอย่างสม่ำเสมอ เช่น โต๊ะทำงน คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการทำงาน ราวบันได ที่จับประตู ห้องน้ำ ด้วยผงซักฟอก หรือน้ำยาทำความสะอาด และ ๗๐% แอลกอฮอลล์
1.8 ระมัดระวัการเก็บขยะติดเชื้อ เช่น ทิชชูที่ผ่านการใช้แล้ว ซึ่งอาจปนเปื้อนสารคัดหลั่ง ก่อนทิ้งขยะติดเชื้อควรใส่ถุงปิดให้มิดชิด หรือทิ้งในถังขยะติดเชื้อ และล้างมือทำความสะอาดเพื่อป้องกันการตกค้างของเชื้อโรค
1.9 สำหรับสถานประกอบกิการที่มีลูกจ้างทำงานรวมกันจำนวนมากจนเป็นพื้นที่แออัด ควรจัดให้มีการตรวจคัดกรองลูกจ้างทุกคนก่อนเข้าทำงาน หากพบลูกจ้างป่วย ควรพิจารณาให้หยุดรักษาตัวที่บ้านเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในสถานประกอบกิจการ และหากมีอาการป่วยรุนแรงให้ส่งพบแพทย์ทันที
1.10 กรณีสถานประกอบกิจการที่มีรถรับ-ส่งพนักงาน ให้ดำเนินการทำความสะอาดยานพาหนะบริเวณ ที่สัมผัสกับโดยสาร เช่น ราวจับ กลอนประตู เบาะนั่ง ที่เทแขนด้วยน้ำผสมผงชักฟอกหรือน้ำยาทำความสะอาดและ ๗0% แอลกอฮอลล์ ซึ่งสามารถทำลายเชื้อไวรัสได้
1.11 หากมีสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยง ช่น พบลูกจ้างป่วยเป็นจำนวนมาก ให้พิจารณาหยุดการผลิตทั้งหมดหรืบางส่วนเป็นการชั่วคราว ตามความจำเป็น เพื่อให้ลูกจ้างหยุดพักรักษาตัวและลดการแพร่กระจายเชื้อโรค
1.12 ปฏิบัติตามคำแนะนำการป้องกันควบคุมโรคไวรัสโคโรนา ของกรมควบคุมโรควันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 ที่มีการจัดการประชุมสัมมนา หรือจัดกิจกรรมอื่นที่ลักษณะใกล้เคียงกัน
1.13 ในกรณีที่สถานประกอบกิการมีหอพักสำหรับลูกจ้าง ให้นำคำแนะนำการป้องกันควบคุมโรคไวรัสโคโรนา สำหรับผู้ประกอบการคอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนท์ หอพัก ของกรมควบคุมโรค ฉบับวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563 มาถือปฏิบัติด้วย อนึ่ง สถานประกอบกิจการใด พบว่ามีลูกจ้างหรือแรงงานที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อโรค ดังกล่าว ซึ่งอาจแพระบาดการแพร่กระจายของเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2018 ต้องรีบดำเนินการส่งตัวไปยังแพทย์หรือสถานพยาบาลเพื่อรักษาสุขภาพโดยด่วนต่อไป
คำแนะนำสำหรับลูกจ้างในสถานประกอบกิจการ
2.1 ควรจัดเตรียมหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอลล์ เพื่อใช้ป้องกันการแพร่เชื้อหรือรับเชื้อสำหรับตนเองและเพื่อนร่วมงาน
2.2 ทำความสะอาดเครื่องใช้และอุปกรณ์ที่ใช้งาน เช่น โต๊ะทำงาน คอมพิวเตอร์ด้วยน้ำยาทำความสะอาด และ 70% แอลกอฮอลล์
2.3 หากสังเกตเห็นเพื่อนร่วมงานมีอาการไอ จาม ผิดปกติ ให้แจ้งหัวหน้างานเพื่อจัดหาหน้ากากอนามัย หรือให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวแก่ลูกจ้างดังกล่าว
2.4 หากพบว่าตนเองเริ่มมีอาการผิดปกติ ควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษา หรือหยุดพักเพื่อเฝ้าระวังและรักษาตัวที่บ้าน หรือถ้ามีความจำเป็นต้องไปทำงานให้สวมหน้ากากอนามัย