อันตรายเกี่ยวกับการทำงานไฟฟ้า(สำหรับลูกจ้าง)
อันตรายเกี่ยวกับการทำงานไฟฟ้า(สำหรับลูกจ้าง) การทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้าเป็นงานที่จำเป็นในหลายอุตสาหกรรม แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่อาจเกิดอันตรายได้หากไม่ระมัดระวัง อันตรายจากไฟฟ้า นั้นมีหลากหลายรูปแบบ และสามารถก่อให้เกิดผลกระทบต่อร่างกายได้รุนแรง ตั้งแต่การบาดเจ็บเล็กน้อยไปจนถึงการเสียชีวิต
อันตรายเกี่ยวกับการทำงานไฟฟ้า เพื่อความปลอดภัยสำหรับลูกจ้างลูกจ้าง
อันตรายจากไฟฟ้า ไฟรั่วกับไฟช็อต
ไฟฟ้า เป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน แต่หากใช้งานไม่ระมัดระวังก็อาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้ หนึ่งในอันตรายที่พบบ่อยคือ ไฟรั่ว และ ไฟช็อต ซึ่งมีความแตกต่างและผลกระทบที่แตกต่างกันไป
ไฟรั่ว คืออะไร?
- ไฟรั่ว คือ สภาวะที่กระแสไฟฟ้าไหลออกจากวงจรไฟฟ้าไปยังส่วนที่ไม่ควรมีกระแสไฟฟ้าไหล เช่น โครงโลหะของเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือพื้นดิน
- สาเหตุ เกิดจากสายไฟชำรุด ฉนวนเสื่อม หรือการเดินสายไฟที่ไม่ถูกต้อง
- อันตราย หากสัมผัสส่วนที่เป็นโลหะของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีกระแสไฟฟ้ารั่ว อาจเกิดไฟดูดได้
ไฟช็อต คืออะไร?
- ไฟช็อต คือ สภาวะที่ร่างกายสัมผัสกับกระแสไฟฟ้าโดยตรง ทำให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกาย
- สาเหตุ เกิดจากการสัมผัสสายไฟเปลือย หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่ชำรุด
- อันตราย กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านร่างกายจะทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็ง หัวใจเต้นผิดจังหวะ และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
ความแตกต่างระหว่างไฟรั่วและไฟช็อต
ลักษณะ | ไฟรั่ว | ไฟช็อต |
คำอธิบาย | กระแสไฟฟ้ารั่วไหลออกจากวงจร | ร่างกายสัมผัสกับกระแสไฟฟ้าโดยตรง |
สาเหตุ | สายไฟชำรุด, ฉนวนเสื่อม | สัมผัสสายไฟเปลือย, อุปกรณ์ชำรุด |
ผลกระทบ | อาจเกิดไฟดูดหากสัมผัส | เกิดอาการไฟดูด, กล้ามเนื้อหดเกร็ง, หัวใจเต้นผิดจังหวะ |
วิธีป้องกันอันตรายจากไฟฟ้า
- ตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า ตรวจสอบสายไฟ ปลั๊ก และอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ให้มีความสมบูรณ์
- อย่าใช้สายไฟที่ชำรุด เปลี่ยนสายไฟที่ชำรุดทันที
- ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟดูด ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟดูด (ELCB) เพื่อตัดกระแสไฟฟ้าอัตโนมัติเมื่อเกิดไฟรั่ว
- อย่าใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าขณะมือเปียก เพราะน้ำเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดี
- อย่าดึงสายไฟออกจากปลั๊กโดยการดึงสาย ควรจับที่ตัวปลั๊กแล้วค่อยๆ ดึงออก
- เรียกช่างไฟฟ้า หากพบปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า ควรเรียกช่างไฟฟ้าที่มีความชำนาญมาตรวจสอบและซ่อมแซม
การป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองและคนรอบข้าง หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้เสมอ
ความรุนแรงของไฟฟ้า ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบต่าง ๆ ดังนี้
ความต้านทาน (Resistance)
- ยิ่งความต้านทานต่ำ กระแสไฟฟ้าก็จะไหลผ่านร่างกายได้มากขึ้น ทำให้เกิดความร้อนและความเสียหายได้รุนแรงขึ้น
- ตัวอย่าง ร่างกายเปียกน้ำจะมีความต้านทานต่ำกว่าร่างกายแห้ง
เวลา (Time)
- ยิ่งสัมผัสกับกระแสไฟฟนาน ความร้อนที่เกิดขึ้นก็จะมากขึ้น และมีโอกาสที่อวัยวะภายในจะได้รับความเสียหายมากขึ้น
- ตัวอย่าง การสัมผัสไฟฟ้าเพียงเสี้ยววินาทีอาจทำให้เกิดอาการช็อต แต่การสัมผัสเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดการไหม้หรือหัวใจหยุดเต้นได้
- กระแสไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ซึ่งมีความถี่ จะทำให้เกิดการหดตัวของกล้ามเนื้อได้รุนแรงกว่ากระแสไฟฟ้ากระแสตรง (DC)
- ตัวอย่าง การสัมผัสสายไฟบ้าน (AC) จะทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็งจนหลุดออกจากแหล่งกำเนิดไฟฟ้าได้ยากกว่าการสัมผัสแบตเตอรี่ (DC)
- แรงดันไฟฟ้าสูง จะผลักดันให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้มากขึ้น ทำให้เกิดอันตรายรุนแรงขึ้น
- กระแสไฟฟ้าสูง จะทำให้เกิดความร้อนและความเสียหายต่อเนื้อเยื่อได้มากขึ้น
- ตัวอย่าง สายไฟแรงสูงอันตรายกว่าสายไฟแรงต่ำ
- หากกระแสไฟฟ้าไหลผ่านหัวใจ จะส่งผลต่อการทำงานของหัวใจและอาจทำให้หัวใจหยุดเต้นได้
- หากกระแสไฟฟ้าไหลผ่านระบบประสาท อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
- ตัวอย่าง: หากกระแสไฟฟ้าไหลผ่านมือและเท้า จะอันตรายน้อยกว่าการไหลผ่านมือและหัวใจ
ผลของกระแสไฟฟ้า
เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกาย จะส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆ ของร่างกายได้หลากหลาย โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ปริมาณกระแสไฟฟ้า ระยะเวลาที่สัมผัส เส้นทางที่กระแสไฟฟ้าไหลผ่าน และความถี่ของกระแสไฟฟ้า
1. กล้ามเนื้อกระดูก หดตัว (muscular fircezing)
- กลไก: กระแสไฟฟ้าจะกระตุ้นให้เส้นประสาทและกล้ามเนื้อหดตัวอย่างรุนแรงและไม่สามารถควบคุมได้
- ผลกระทบ: อาจทำให้ผู้ที่ถูกไฟดูดเกาะติดกับแหล่งกำเนิดไฟฟ้า หรือทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวในท่าทางที่ผิดธรรมชาติ
2. ระบบประสาทชะงัก (nerve block )
- กลไก: กระแสไฟฟ้าจะรบกวนการส่งสัญญาณของระบบประสาท ทำให้เกิดอาการชา มึนงง หรือสูญเสียการรับรู้
- ผลกระทบ: อาจทำให้ผู้ที่ถูกไฟดูดหมดสติ หรือเสียชีวิตได้
3. หัวใจหยุดทำงาน (Cardiac arrest)
- กลไก: กระแสไฟฟ้าจะรบกวนการทำงานของระบบไฟฟ้าในหัวใจ ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะหรือหยุดเต้น
- ผลกระทบ: เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของผู้ที่ถูกไฟดูด
4. หัวใจเต้นถี่ เร็ว (Ventilation fibrillation)
- กลไก: กระแสไฟฟ้าจะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจหดตัวสั่นรัวอย่างไม่เป็นจังหวะ ทำให้เลือดสูบฉีดไปเลี้ยงร่างกายไม่เพียงพอ
- ผลกระทบ: หากไม่ทำการปฐมพยาบาลอย่างถูกต้องและรวดเร็ว จะนำไปสู่การเสียชีวิตได้
5. เซลล์ภายในเสีย ตาย
- กลไก: กระแสไฟฟ้าจะสร้างความร้อนและทำลายเซลล์ ทำให้เซลล์เสียหายและตาย
- ผลกระทบ: อาจทำให้เกิดแผลไหม้ เนื้อเยื่อถูกทำลาย และอวัยวะภายในเสียหาย
6. เนื้อเยื่อ เซลล์ถูกทำลาย
- กลไก: ความร้อนที่เกิดจากกระแสไฟฟ้าจะทำลายเนื้อเยื่อและเซลล์
- ผลกระทบ: อาจทำให้เกิดแผลไหม้ลึก และอาจต้องผ่าตัดเพื่อเอาเนื้อเยื่อที่ตายออก
7. ดวงตาอับเสบ
- กลไก: แสงที่เกิดจากประกายไฟหรือความร้อนจากกระแสไฟฟ้าอาจทำให้อักเสบได้
- ผลกระทบ: อาจทำให้ตาบอดหรือมองเห็นไม่ชัด
ผลของกระแสไฟฟ้าต่อร่างกายระดับผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดี
(ระบบ 50-60 HZ และไม่จำกัดเวลา)
ขนาดกระแสมิลลิแอมแปร์ | อาการ |
0.5 | ไม่รู้สึก |
1 | รู้สึกถึงกระแสไฟฟ้า |
1-3 | รู้สึกแต่ไม่เจ็บปวด |
3-10 | รู้สึกเจ็บปวด |
10 | รู้สึกถึงการเกร็งของกล้ามเนื้อ |
30 | รู้สึกถึงการขัดข้องทางระบบหายใจ |
75 | รู้สึกถึงการขัดข้องของหัวใจ |
250 | เกิดการขัดข้องกล้ามเนื้อหัวใจ( 99.5 % PROB.ที่เกิดการขัดข้องสำหรับโดนไฟฟ้าดูด 5 นาที ) |