เตรียมให้พร้อมก่อนไปเที่ยวปีใหม่เพื่อป้องกันไฟไหม้ ในสถานประกอบกิจการ - เซฟตี้อินไทย
อบรมหลักสูตรฟรี สำหรับสมาชิก          คลิกที่นี่

บทความ

เตรียมให้พร้อมก่อนไปเที่ยวปีใหม่เพื่อป้องกันไฟไหม้ ในสถานประกอบกิจการ



ปีใหม่ทีไร หลายโรงงาน หลายสำนักงานมีธรรมเนียมเหมือนกันทุกปี คือปิดงานยาว พนักงานกลับบ้านไปพักผ่อน หน่วยงานผลิตหยุดกำลังการผลิต บางแห่งปิดทั้งไซต์เพื่อให้ทีมช่าง ทีมเซฟตี้ได้ตรวจสอบใหญ่ประจำปี แต่ช่วงหยุดยาวนี่แหละครับ ที่มักเกิดเหตุไฟไหม้บ่อยที่สุด เพราะอุปกรณ์ยังต่อไฟอยู่ เครื่องจักรบางส่วนไม่ได้ปิดสนิท บางหน่วยงานลืมตรวจจุดเสี่ยงก่อนออกวันหยุด ส่งผลให้มีไฟฟ้าลัดวงจร ไฟไหม้ห้องควบคุม และไฟลามสต็อกสินค้า เสียหายหลักล้านจนถึงขั้นหยุดการผลิตนานหลายสัปดาห์ก็มี

เตรียมให้พร้อมก่อนไปเที่ยวปีใหม่เพื่อป้องกันไฟไหม้ ในสถานประกอบกิจการ

เตรียมให้พร้อมก่อนไปเที่ยวปีใหม่เพื่อป้องกันไฟไหม้ ในสถานประกอบกิจการ

“อุบัติเหตุทางไฟไหม้เกิดขึ้นได้ทุกเวลา” นี่ไม่ใช่คำขู่ แต่เป็นเรื่องจริงตามสถิติของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ที่พบว่าเหตุเพลิงไหม้ในภาคอุตสาหกรรมจำนวนมากเกิดใน ช่วงกลางคืน และวันหยุดยาว เพราะไม่มีคนอยู่เฝ้า ไม่มีใครทันสังเกตสิ่งผิดปกติ ดังนั้นก่อนออกเดินทางไปรับลมหนาว ชิมหมูกระทะ หรือไหว้พระ 9 วัด แผนป้องกันไฟไหม้ในสถานประกอบกิจการถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำก่อนทุกปี

บทความนี้ เซฟตี้อินไทย จะพาคุณไปตรวจสอบแบบ Step by Step ว่าองค์กรควรเตรียมอะไรบ้าง เพื่อให้โรงงานปลอดภัย พนักงานสบายใจ และเจ้าของกิจการไม่ต้องสะดุ้งตื่นกลางดึกเพราะโรงงานไฟไหม้ครับ


ทำไมวันหยุดยาวจึงเป็น “ช่วงเสี่ยงไฟไหม้” มากที่สุด

หลายคนอาจสงสัยว่าเมื่อไม่มีใครทำงาน ไม่น่าจะมีความเสี่ยง แต่ในความจริงกลับตรงกันข้าม เพราะไฟไหม้ในโรงงานจำนวนมากเกิดจาก

• ความร้อนสะสมของมอเตอร์ที่ไม่ได้ปิด

• เครื่องจักรที่ยังมีระบบไฟ Standby

• ปลั๊กพ่วงที่ต่อทิ้งไว้

• ฝุ่นผง/ขี้กาก/น้ำมันที่สะสมตามจุดเสี่ยง

• หนูหรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเข้าไปกัดสายไฟ

• ความชื้นในช่วงปลายปีที่ทำให้เกิดการลัดวงจร

• ความบกพร่องของระบบดับเพลิงที่ไม่มีทีมงานตรวจเช็ก

รวมถึง “การขาดผู้เฝ้าระวัง” ที่ทำให้เหตุเล็กๆ กลายเป็นไฟลุกลามใหญ่ภายในเวลาไม่กี่นาที

ดังนั้น การเตรียมตัวก่อนหยุดยาวจึงเป็นเหมือนการป้องกัน ไม่ใช่รอให้ไฟไหม้แล้วค่อยดับ เพราะตอนนั้นจะเสียหายทุกด้าน ทั้งเครื่องจักร สินค้า ยอดขาย และชื่อเสียงองค์กร


Checklist จุดสำคัญที่ต้องตรวจเช็กก่อนหยุดปีใหม่

เพื่อให้การเตรียมความพร้อมเป็นระบบ ผมสรุปเป็นชุด Checklist ที่โรงงานส่วนใหญ่ใช้กัน และอิงตามแนวทาง พ.ร.บ. ความปลอดภัยฯ และกฎกระทรวงระบบไฟฟ้าและการป้องกันอัคคีภัยครับ

ตรวจสอบตู้เมนไฟฟ้า (MDB) และ ตรวจสอบเครื่องจักรและเครื่องใช้ไฟฟ้า

ตรวจสอบตู้เมนไฟฟ้า (MDB) และ ตรวจสอบเครื่องจักรและเครื่องใช้ไฟฟ้า


1. ตรวจสอบตู้เมนไฟฟ้า (MDB)

ตู้เมนไฟฟ้าเป็นหัวใจหลักของระบบไฟทั้งโรงงาน ถ้าจุดนี้ผิดปกติแม้เพียงเล็กน้อย ความเสี่ยงไฟไหม้จะสูงมาก

สิ่งที่ต้องทำคือ

  • ตรวจสภาพเบรกเกอร์ว่ามีรอยไหม้ แตก ละลาย หรือมีกลิ่นไหม้หรือไม่
  • ตรวจสภาพสายไฟว่ามีรอยถลอก หนูกัด หรือมีความชื้นสะสม
  • ทำความสะอาดฝุ่นภายใน-ภายนอกตู้
  • ตรวจอุณหภูมิด้วย Thermal Scan หากมีเครื่องมือ
  • ตรวจระบบกราวด์และสายดินว่าพร้อมใช้งาน
หากพบสิ่งผิดปกติ ต้องแก้ไขทันที ไม่ควรรอหลังปีใหม่ เพราะอาจไม่ทันการณ์


2.ตรวจสอบเครื่องจักรและเครื่องใช้ไฟฟ้า

จุดนี้เป็นต้นเหตุไฟไหม้ยอดฮิต โดยเฉพาะโรงงานที่มีเครื่องจักรทำงานต่อเนื่อง

สิ่งที่ต้องทำคือ

  • ปิดเบรกเกอร์เครื่องจักรที่ไม่ใช้
  • ถอดปลั๊กเครื่องมือและอุปกรณ์สำนักงาน เช่น คอมพิวเตอร์ กาต้มน้ำ เครื่องพิมพ์
  • ตรวจสภาพปลั๊กพ่วง ไม่ใช้ของราคาถูก ไม่มี มอก.
  • ตรวจสวิตช์ไฟตามไลน์ผลิต
  • ห้ามเสียบปลั๊กเครื่องจักรทิ้งไว้โดยไม่จำเป็น
  • จัดการน้ำมันหล่อลื่น หรือน้ำมันเก่าในไลน์ผลิตที่อาจติดไฟง่าย
ในหลายกรณี ไฟไหม้เกิดจาก “ปลั๊กพ่วงที่ต่อชาร์จมือถือพนักงาน” เพราะไม่มีใครถอดก่อนปิดโรงงาน ดังนั้นต้องกำชับเรื่องนี้เป็นพิเศษครับ
ตรวจสอบปั๊มน้ำดับเพลิงและระบบตรวจจับสัญญาณเพลิงไหม้ และสำรวจจุดเสี่ยงประกายไฟและพื้นที่เก็บของไวไฟ

ตรวจสอบปั๊มน้ำดับเพลิงและระบบตรวจจับสัญญาณเพลิงไหม้ และสำรวจจุดเสี่ยงประกายไฟและพื้นที่เก็บของไวไฟ


3.ตรวจสอบปั๊มน้ำดับเพลิงและระบบตรวจจับสัญญาณเพลิงไหม้

แม้จะเป็นวันหยุด แต่ระบบความปลอดภัยต้องพร้อมใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง

สิ่งที่ต้องตรวจ

  • ปั๊มน้ำดับเพลิงต้องสตาร์ตติด ทำงานได้
  • ตรวจแรงดันและ Flow ของระบบ
  • ตรวจหัวรับสัญญาณ ควัน-ความร้อน
  • ตรวจเสียงเตือน Fire Alarm ว่าทำงาน
  • ตรวจสภาพวาล์ว วงจรท่อดับเพลิง
  • ตรวจถังดับเพลิงทุกจุด ว่าแรงดันยังอยู่ในโซนสีเขียว
อย่าลืมตรวจระบบดับเพลิงอัตโนมัติ เช่น Sprinkler ว่ามีอะไรไปบังหัวฉีดหรือไม่


4.สำรวจจุดเสี่ยงประกายไฟและพื้นที่เก็บของไวไฟ

พื้นที่ที่มีสารเคมีสี ไวไฟ น้ำมัน จาระบี หรือฝุ่นผงกองอยู่ ถือเป็นจุดเสี่ยงอันดับหนึ่ง

ต้องจัดการดังนี้

  • เก็บสารไวไฟให้เป็นระเบียบตามมาตรฐาน
  • ปิดฝาภาชนะทุกชนิด
  • ตรวจสภาพชั้นวางและพื้นที่โดยรอบ
  • ตรวจถาดรองน้ำมันหรือของเหลว
  • ไม่ทำงาน Hot Work โดยไม่มี Permit
  • เก็บเศษผ้าชุบน้ำมันและทิ้งอย่างถูกวิธี
  • จำกัดพื้นที่สูบบุหรี่ไม่ให้ใกล้พื้นที่เก็บของไวไฟ
ถ้าปล่อยระเกะระกะ ไฟจะลามเร็วมาก เพราะมีเชื้อเพลิง


5 ทำความสะอาดพื้นที่ ลดการสะสมของฝุ่นและเศษวัสดุ

ฝุ่นละเอียดโดยเฉพาะฝุ่นไม้ ฝุ่นแป้ง ฝุ่นโลหะ เป็นตัวการของ “Explosive Dust” ที่สามารถระเบิดได้ หากสะสมเป็นจำนวนมาก

ก่อนหยุดงานควร

  • กวาด-ดูดฝุ่นตามรางสายพาน
  • ดูดฝุ่นด้านบนคาน โครงสร้าง และท่อ
  • เก็บเศษกระดาษและขยะติดไฟง่าย
  • เช็ดน้ำมันหกหรือคราบมันตามพื้น
ยิ่งโรงงานอาหาร โรงงานเฟอร์นิเจอร์ หรือโรงงานเคมี ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ


6 จัดตั้งทีมตรวจตราช่วงวันหยุด (Holiday Patrol Team)

แม้พนักงานจะหยุด แต่โรงงานไม่ควรหยุดตรวจ

ทีมตรวจตราควรมีหน้าที่ดังนี้

ตรวจตราจุดเสี่ยง

ตรวจตราจุดเสี่ยง

  • เดินตรวจจุดเสี่ยงทุก 4–6 ชั่วโมง
  • ตรวจตู้ MDB ทุกโซน
  • ตรวจสติดไฟที่ค้างอยู่
  • ตรวจกล้องวงจรปิด
  • ลงบันทึกการตรวจทุกครั้ง
  • รายงานเหตุผิดปกติให้หัวหน้าเวรทันที
โรงงานขนาดใหญ่จะมี รปภ. ตรวจร่วมกับ จป. เพื่อควบคุมให้ทุกจุดยังปลอดภัยในช่วงวันหยุดยาว


7.ประเมินความเสี่ยงล่วงหน้า และสื่อสารให้พนักงานทุกคนทราบ

ก่อนหยุดปีใหม่ ควรให้ทุกแผนกประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment) แล้วสรุปจุดที่ต้องแก้ไข เช่น

  • ห้องสารเคมีต้องเก็บเพิ่ม
  • เครื่องจักร A ต้องตัดไฟ
  • ไลน์ผลิต B ต้องทำความสะอาดเพิ่ม
  • ห้องพักพนักงานมีปลั๊กหลวมต้องแก้
หลังจากนั้นประกาศให้ทุกคนทราบ เพื่อให้การจัดการเป็นไปในทิศทางเดียวกัน


8 ซ้อมแผนเผชิญเหตุ (ถ้าจัดก่อนหยุดได้ยิ่งดี)

แม้จะเป็นช่วงเร่งงาน แต่การซ้อมดับเพลิงย่อมดีกว่าไม่ซ้อมเลย

การซ้อมจะทำให้

  • ทุกคนรู้ตำแหน่งถังดับเพลิง
  • รู้เส้นทางหนีไฟ
  • รู้ขั้นตอนแจ้งเหตุ
  • รู้วิธีใช้ถังดับเพลิงเบื้องต้น


9 เตรียมระบบสื่อสารกรณีฉุกเฉิน

ต้องมีเบอร์โทรสำคัญติดไว้ดังนี้

• เบอร์หัวหน้าแผนก

• เบอร์ จป.

• เบอร์ฝ่ายซ่อมบำรุง

• เบอร์หน่วยดับเพลิง 199

• เบอร์สายด่วนนิรภัย 1784

• เบอร์สายด่วนการแพทย์ 1669

ติดไว้ที่ป้อม รปภ. และป้ายประกาศทุกจุด เพื่อให้แจ้งเหตุได้ทันที


การวางระบบป้องกันระยะยาว เพื่อให้ปีใหม่ปีหน้าไม่ต้องกังวล

เพื่อไม่ให้การตรวจเช็กเป็นเพียง “งานเฉพาะกิจช่วงปีใหม่” องค์กรควรวางระบบป้องกันระยะยาวดังนี้


ทำแผนบำรุงรักษา PM ตามมาตรฐาน

• ตรวจระบบไฟฟ้าทุก 6 เดือน

• ตรวจถังดับเพลิงทุกเดือน

• ตรวจ Fire Pump ทุกสัปดาห์

• ตรวจ Smoke Detector ทุกปี

งาน PM ที่สม่ำเสมอจะลดความเสี่ยงไฟไหม้ได้กว่า 70%


จัดอบรมดับเพลิงทุกปี

ตามกฎกระทรวงปี 2565

• องค์กรต้องมีการอบรมดับเพลิงขั้นต้น

• ต้องมีทีม Fire Fighter

• ต้องซ้อมหนีไฟอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

การอบรมจะทำให้ทุกคนไม่ตื่นตระหนกเมื่อเกิดเหตุจริง


ใช้ระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ

เช่น

• ระบบแจ้งเตือนผ่านมือถือ

• ระบบ Fire Alarm แจ้งเตือนเข้าห้องควบคุม

• ระบบเช็กสถานะอุปกรณ์ผ่านเซ็นเซอร์

ช่วยให้จับความผิดปกติได้ก่อนลุกลาม


ตรวจความพร้อมของกล้องวงจรปิด

CCTV มีประโยชน์มากเมื่อเกิดเหตุ เพราะช่วยให้รู้ต้นเพลิง

ควรตรวจว่า

• กล้องทุกตัวทำงาน

• ไฟสำรองพร้อม

• Footage เก็บมากกว่า 15 วัน


หากเกิดเหตุไฟไหม้ในช่วงวันหยุด ควรทำอย่างไร

ช่วงที่ไม่มีคนอยู่ การแจ้งเหตุเร็วคือหัวใจสำคัญ

แนวทางปฏิบัติคือ

  1. โทรแจ้ง 199 ทันที
  2. แจ้งหัวหน้าแผนก หรือ จป.
  3. ให้ รปภ. ตรวจสอบจากระยะปลอดภัย
  4. ใช้ถังดับเพลิงเฉพาะพื้นที่ที่ปลอดภัยและระงับได้
  5. ถ้าไฟลุกลาม ต้องอพยพและกันพื้นที่ทันที

อย่าพยายามเข้าใกล้ห้องที่มีไฟแรง เพราะอาจเกิด Flashover ได้ในเวลาไม่ถึง 3 นาที


สรุป ตรวจเช็กหนึ่งวัน ดีกว่าซ่อมโรงงานหนึ่งเดือน

ทุกปีมีเคสที่โรงงานไฟไหม้เพราะ “ลืมปิดสวิตช์ตัวเดียว” หรือ “ปลั๊กพ่วงตัวเก่าไม่ได้ถอด” จริงๆ ครับ ความเสียหายไม่ใช่แค่ทรัพย์สิน แต่ยังรวมถึงต้นทุนการหยุดผลิต ความล่าช้าของออเดอร์ ความปลอดภัยของทีมงาน และชื่อเสียงของบริษัท

ดังนั้น ก่อนออกไปเที่ยวปีใหม่ องค์กรควรจัดแผนตรวจสอบอย่างจริงจัง ทำ Checklist ชัดเจน มอบหมายผู้รับผิดชอบ ตรวจให้ครบทุกรายการ แล้วบันทึกการตรวจอย่างเป็นระบบ เพื่อให้มั่นใจว่าโรงงานพร้อม ปลอดภัย และไม่มีความเสี่ยงค้างคา

การเดินทางปีใหม่จะได้เต็มไปด้วยความสบายใจ ไม่ต้องกังวลว่า “โรงงานจะเป็นยังไงบ้างนะ”


Comments


businessman

ติดต่อสอบถามคลิกไลน์ Safety In Thai
ติดต่อ-สอบถาม กดตรงนี้ได้เลยค่ะ
ติดต่อ-สอบถาม กดตรงนี้ได้เลยค่ะ