การปฐมพยาบาลและการกู้ชีพเบื้องต้น - เซฟตี้อินไทย
อบรมหลักสูตรฟรี สำหรับสมาชิก          คลิกที่นี่
การปฐมพยาบาลและการกู้ชีพเบื้องต้น

การปฐมพยาบาลและการกู้ชีพ เบื้องต้น (First Aid & CPR Basic)

เซฟตี้อินไทย ตระหนักถึงความสำคัญของการช่วยชีวิตในภาวะฉุกเฉิน จึงได้พัฒนาหลักสูตรการปฐมพยาบาลและการกู้ชีพเบื้องต้น (First Aid & CPR Basic) เพื่อให้ทุกคนมีความรู้ ความเข้าใจ และความมั่นใจที่จะยื้อชีวิตในเวลาที่สำคัญที่สุด

ทุกวินาทีหลังหัวใจหยุดเต้น คือ การแข่งกับเวลา

กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัย พ.ศ. ๒๕๕๕ ข้อ ๒๘ (๒) ให้ผู้ที่ มีหน้าที่เกี่ยวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัยได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัย การใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ในการดับเพลิง การปฐมพยาบาล และการช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน

เซฟตี้อินไทยทฤษฎีแน่นๆปฎิบัติเน้นๆ

ได้รับใบเซอร์ (Certificate) หลังผ่านการทดสอบ

การปฐมพยาบาล

ทุกรอยยิ้มแห่งความประทับใจ อบรม First Aid & CPR Basic กับเซฟตี้อินไทย

ทุกรอยยิ้มแห่งความประทับใจ เกิดจากการเรียนรู้ที่มีคุณค่า อบรม First Aid & CPR Basic กับเซฟตี้อินไทย เสริมทักษะการช่วยชีวิตอย่างถูกวิธี เพราะทุกวินาทีแห่งการเรียนรู้...อาจต่อชีวิตให้ใครอีกคนได้จริง


การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล

CPR คือ ทักษะที่คนธรรมดาก็เป็น "ฮีโร่" ได้

ถ้าคุณเจอเหตุฉุกเฉิน ให้ทำตาม 7 ขั้นตอนนี้ ตรวจว่ามีสติหรือไม่เขย่าตัว เรียกชื่อ ถ้าไม่ตอบสนอง = หมดสติ ขอคนช่วย / เรียกหา AEDขอความช่วยเหลือทันที ไม่ทำคนเดียว โทร 1669แจ้งเจ้าหน้าที่แพทย์ฉุกเฉิน ระบุสถานที่ชัดเจน เช็กว่าหายใจไหมถ้าไม่หายใจหรือหายใจเฮือก → เริ่มทำ CPR วางมือกลางหน้าอกใช้ส้นมือซ้อนกัน ข้อศอกตรง โน้มตัว ใช้น้ำหนักตัวกด กดหน้าอกด้วยความเร็ว 100–120 ครั้ง/นาทีกดลึก 5–6 ซม. ให้หน้าอกเด้งกลับก่อนกดรอบถัดไป ทำต่อเนื่องไม่หยุดจนกว่าผู้ป่วยจะฟื้น หรือทีมแพทย์จะมาถึง

การปฐมพยาบาลและการกู้ชีพเบื้องต้น
การปฐมพยาบาลและการกู้ชีพเบื้องต้น
การปฐมพยาบาลและการกู้ชีพเบื้องต้น

เซฟตี้อินไทย รับจัดอบรมอินเฮ้าส์ การปฐมพยาบาลและการกู้ชีพเบื้องต้น (First Aid & CPR Basic)

เราพร้อมปรับหลักสูตรให้เข้ากับบริบทของแต่ละองค์กร เพื่อให้การอบรม First Aid & CPR Basic ไม่ใช่แค่การเรียนรู้...แต่คือการสร้าง “วัฒนธรรมการช่วยชีวิต” ภายในทีมของคุณ


การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล

สิ่งที่ต้องเตรียมมาในวันอบรม

check

เอกสารหักภาษี ณ ที่จ่าย 3%

ฉบับจริง (ถ้ามี)

check

บัตรประชาชน/ใบขับขี่

( เพื่อตรวจสอบรายชื่อ )

check

โทรศัพท์มือถือ

เพื่อทำข้อสอบออนไลน์ ผ่าน www.topprobooking.com

*หมายเหตุ พัก Coffee Break เวลา 10:30 น. - 10:45 น. (ช่วงเช้า) และ เวลา 14:30 น. - 14:45 น. (ช่วงบ่าย)
รายละเอียดและกำหนดการดังกล่าว สามารถยืดหยุ่นได้ตามความเหมาะสมโดยการบรรยาย การถ่ายทอด
และแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากวิทยากร โดยไม่กระทบต่อเนื้อหาสำคัญในหลักสูตรตามวัตถุประสงค์

การอบรมของท่าน เป็นไปอย่างราบรื่นและอิ่มเอม


เพื่อให้การอบรมของท่านเป็นไปอย่างราบรื่นและอิ่มเอม เรายินดีบริการอาหารกลางวันและอาหารว่าง สำหรับผู้เข้าร่วมอบรมทุกท่านที่เข้าร่วมการอบรมรูปแบบ Public Training


อาหาร
อาหาร
อาหาร
อาหาร
อาหาร
อาหาร
อาหาร
อาหาร

คุณหาหลักสูตรที่ต้องการไม่พบ หรือต้องการให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ ใช่หรือไม่ ?

ฝากข้อมูล
เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ

มากกว่า 100 ครั้งในการจัดอบรมการปฐมพยาบาลและการกู้ชีพเบื้องต้น การันตีได้ถึงมาตรฐาน และความประทับใจ

เซฟตี้อินไทย มุ่งเน้นการให้บริการด้วยความเอาใจใส่และเป็นกันเอง เราให้ความสำคัญกับการสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่ผ่อนคลายและมีส่วนร่วม เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมรู้สึกประทับใจและได้รับประโยชน์สูงสุดจากการอบรม

หลักสูตร การปฐมพยาบาลเบื้องต้น สระบุรี 03-09-2568

3 กันยายน 2568
ชลบุรี
หลักสูตร การปฐมพยาบาลเบื้องต้น นครราชสีมา 08-08-2568

7 สิงหาคม 2568
ชลบุรี
อบรมการปฐมพยาบาลเบื้องต้น สระบุรี ราคา 21-07-2568

21 กรกฎาคม 2568
ชลบุรี
อบรมการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ระยอง ราคา 12-06-2568

12 มิถุนายน 2568
ชลบุรี

ความรู้เรื่องการปฐมพยาบาล
ที่คุณไม่ควรพลาด

เพราะ “การปฐมพยาบาล” คือสิ่งที่ไม่ใช่หน้าที่ของหมอเท่านั้น แต่เป็นทักษะชีวิตที่ช่วยชีวิตคนได้ในเสี้ยววินาทีเดียว มาดูกันครับกับ ความรู้เรื่องการปฐมพยาบาล ที่คุณไม่ควรพลาด

cpr

CPR การช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน

CPR การช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานในสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีผู้หมดสติและหยุดหายใจ การปฐมพยาบาลขั้นพื้นฐานที่เรียกว่า "CPR" หรือ "การช่วยฟื้นคืนชีพ" ถือเป็นทักษะที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะสามารถช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุได้ในนาทีวิกฤต โดยเฉพาะในช่วง 4 นาทีแรกที่หัวใจหยุดเต้น ซึ่งหากปล่อยไว้นานกว่านั้นสมองจะขาดออกซิเจนและเกิดความเสียหายถาวรบทความนี้จะพาผู้อ่านไปทำความเข้าใจขั้นตอนการทำ CPR อย่างถูกต้องตามลำดับ พร้อมภาพประกอบที่น่ารักจากเพจ เซฟตี้อินไทย เพื่อช่วยให้จดจำง่ายและสามารถนำไปใช้ได้จริงขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบว่าผู้ป่วยมีสติหรือไม่CPR การช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานก่อนจะทำการใด ๆ ต้องประเมินผู้ป่วยเบื้องต้นโดยการเรียกชื่อ หรือเขย่าตัวเบา ๆ หากไม่มีการตอบสนอง ไม่ขยับตัว ไม่ลืมตา ให้ถือว่าเป็น "หมดสติ"หากผู้ป่วยหมดสติ = เข้าสู่ภาวะวิกฤต ต้องเริ่มการช่วยเหลือทันทีขั้นตอนที่ 2 เรียกขอความช่วยเหลือเมื่อพบว่าผู้ป่วยหมดสติ ให้ตะโกนเรียกคนรอบข้างให้มาช่วยทันที เช่น "ช่วยด้วย! มีคนหมดสติ!" เพื่อกระตุ้นให้มีคนมาช่วย หรือสามารถไปนำเครื่อง AED (เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ) ได้หากอยู่ในพื้นที่ที่มีขั้นตอนที่ 3 โทรแจ้งสายด่วน 1669CPR การช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานเป็นขั้นตอนสำคัญที่ห้ามลืม คือ การโทรแจ้งหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว โดยระหว่างที่รอรถพยาบาล เราสามารถเริ่ม CPR ไปได้เลยเบอร์ 1669 คือหมายเลขฉุกเฉินสำหรับการแพทย์ฉุกเฉินของประเทศไทยขั้นตอนที่ 4 ตรวจดูว่าผู้ป่วยหายใจหรือไม่ให้เปิดทางเดินหายใจด้วยการเชยคางและกดหน้าผากเบา ๆ แล้วดูว่า หน้าอกมีการขยับหรือไม่ หรือเอาหูแนบใกล้จมูกผู้ป่วยเพื่อฟังเสียงลมหายใจถ้าไม่พบการหายใจหรือหายใจเฮือก (agonal breathing) ถือว่าเข้าสู่ภาวะหัวใจหยุดเต้นขั้นตอนที่ 5 เริ่มต้นการทำ CPR โดยการวางมืออย่างถูกต้องCPR การช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานให้ผู้ช่วยเหลือคุกเข่าข้างตัวผู้ป่วย วางส้นมือข้างหนึ่งบนกระดูกหน้าอก บริเวณครึ่งล่างของกระดูกหน้าอก จากนั้นวางมืออีกข้างซ้อนทับกัน ปลายนิ้วไม่สัมผัสหน้าอกข้อศอกต้องเหยียดตรง ไม่งอแขน และให้แรงมาจากลำตัวเพื่อกดได้แรงพอขั้นตอนที่ 6 ตั้งศอกให้ตรง โน้มตัวให้หัวไหล่อยู่ตรงจุดกดหัวไหล่ของผู้ช่วยเหลือต้องอยู่เหนือมือที่กดโดยตรง น้ำหนักตัวจึงจะถ่ายลงสู่หน้าอกผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ การโน้มตัวอย่างถูกวิธีจะช่วยให้แรงกดสม่ำเสมอและลดการเมื่อยล้าขั้นตอนที่ 7 เริ่มกดหน้าอกด้วยความเร็ว 100 ครั้งต่อนาทีความเร็วในการกดหน้าอกต้องอยู่ที่ประมาณ 100-120 ครั้งต่อนาที แต่ละครั้งต้องกดให้ลึกประมาณ 5-6 เซนติเมตร และให้หน้าอกดีดตัวกลับขึ้นมาก่อนกดครั้งต่อไปเสมอใช้เพลงเช่น "Stayin' Alive" ของ Bee Gees เพื่อช่วยจับจังหวะได้ดีห้ามกดเร็วเกินไป ห้ามกดตื้นเกินไป และห้ามไม่ให้หน้าอกดีดกลับการใช้งาน AED (ถ้ามี)ถ้าพบเครื่อง AED ใกล้จุดเกิดเหตุ ให้นำมาใช้งานทันที โดยเปิดเครื่องและทำตามคำแนะนำเสียงพูดของเครื่อง เครื่องจะบอกให้แปะแผ่นนำไฟฟ้าที่หน้าอก แล้วจะวิเคราะห์จังหวะหัวใจและช็อกไฟฟ้าหากจำเป็นหยุดการกดหน้าอกชั่วคราวขณะเครื่องวิเคราะห์จังหวะหัวใจทำต่อเนื่องจนกว่ามีการตอบสนองหรือเจ้าหน้าที่มาถึงการทำ CPR ต้องทำต่อเนื่องโดยไม่หยุด จนกว่าผู้ป่วยจะเริ่มขยับหรือหายใจ หรือจนกว่าหน่วยแพทย์ฉุกเฉินจะมาถึงและรับช่วงต่อถ้ามีผู้ช่วยหลายคน ควรผลัดเปลี่ยนกันทุก 2 นาที เพื่อรักษาความแรงและความสม่ำเสมอในการกดหน้าอก ทักษะนี้ไม่ควรรอให้เกิดเหตุจึงเรียนรู้การฝึกอบรม CPR อย่างถูกวิธี จะช่วยให้ประชาชนมีความมั่นใจในการช่วยชีวิตผู้อื่น และยังเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของผู้ประสบเหตุได้อย่างมหาศาลจากสถิติ: หากทำ CPR ภายใน 4 นาทีหลังหัวใจหยุดเต้น โอกาสรอดชีวิตอาจเพิ่มขึ้นถึง 2-3 เท่าสรุปCPR ไม่ใช่แค่เรื่องของแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่กู้ภัยเท่านั้น แต่คือหน้าที่ของทุกคนที่พร้อมยื่นมือช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน คนในครอบครัว หรือแม้แต่คนแปลกหน้าบนท้องถนนหากคุณรู้จัก CPR และลงมือทำทันทีเมื่อมีเหตุ คุณอาจเป็น "ฮีโร่" ที่ช่วยชีวิตคน ๆ หนึ่งไว้ได้อย่างแท้จริง แนะนำให้เข้าอบรมหลักสูตร CPR กับวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ จากเซฟตี้อินไทย ที่มีทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติจริง ใช้อุปกรณ์จริงจำลองสถานการณ์ พร้อมใบรับรองผ่านการอบรมอย่ารอให้เหตุเกิดก่อนแล้วจึงนึกถึงการเรียนรู้ เพราะในชีวิตจริง... โอกาสในการช่วยชีวิตอาจมีแค่ครั้งเดียว

รับมือเหตุฉุกเฉินจากสารเคมี วิธีปฐมพยาบาลผู้ได้รับพิษจากการสูดดม

รับมือเหตุฉุกเฉินจากสารเคมี วิธีปฐมพยาบาลผู้ได้รับพิษจากการสูดดม

รับมือเหตุฉุกเฉินจากสารเคมี วิธีปฐมพยาบาลผู้ได้รับพิษจากการสูดดมทุกวันนี้เราใช้สารเคมีในชีวิตประจำวันโดยไม่ทันคิดถึงอันตรายที่อาจแฝงมา ไม่ว่าจะเป็นในโรงงานอุตสาหกรรม ห้องแล็บ เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปจนถึงในครัวเรือนที่มีน้ำยาล้างห้องน้ำ ยาฆ่าแมลง หรือแม้แต่กลิ่นจากสีทาบ้าน และเมื่อเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้น เช่น การรั่วไหล การเผาไหม้ หรืออุบัติเหตุที่ทำให้เกิดการแพร่กระจายของสารพิษในอากาศ การรับมืออย่างรู้เท่าทัน และการปฐมพยาบาลอย่างถูกวิธีสามารถช่วยชีวิตคนได้สารพิษที่พบบ่อยและอันตรายเมื่อสูดดมเข้าไปสารพิษที่พบบ่อยและอันตรายเมื่อสูดดมเข้าไปการสูดดมสารพิษเป็นทางเข้าสู่ร่างกายที่อันตรายที่สุด เพราะส่งตรงเข้าสู่ปอด และกระจายไปยังระบบไหลเวียนโลหิตในเวลาอันรวดเร็ว เรามาทำความรู้จักกับสารพิษที่อันตราย และพบบ่อยเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO)อาการ: วิงเวียน หน้ามืด คลื่นไส้ หมดสติ เพราะเซลล์ร่างกายขาดออกซิเจนแหล่งที่มา: การเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ เช่น ในเครื่องยนต์ รถยนต์ เครื่องทำน้ำอุ่น เตาแก๊ส เตาอั้งโล่ในบ้านจุดน่ากลัว: ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่รู้ตัวว่ากำลังสูดดมซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO₂)อาการ: ระคายเคืองจมูก หลอดลม ไอ หายใจไม่สะดวก แน่นหน้าอกแหล่งที่มา: จากการเผาไหม้ของถ่านหิน น้ำมัน หรือกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีอันตราย: หากได้รับมากจะทำให้เยื่อบุทางเดินหายใจอักเสบและเป็นอันตรายต่อปอดในระยะยาวสารพิษที่พบบ่อยและอันตรายเมื่อสูดดมเข้าไปสไตรีนโมโนเมอร์ (C₈H₈)อาการ: มึนงง เวียนหัว ปวดหัว สับสนแหล่งที่มา: พลาสติก โฟม ยาง หรือเรซินผลต่อสุขภาพ: สะสมในร่างกาย ส่งผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง เป็นสารต้องสงสัยว่าอาจก่อมะเร็งได้ในระยะยาวก๊าซแอมโมเนีย (NH₃)อาการ: แสบตา ตาบวม น้ำตาไหล แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก และในบางกรณีรุนแรงอาจทำให้ปอดบวมน้ำแหล่งที่มา: โรงงานน้ำแข็ง การผลิตปุ๋ย โรงงานยา และพบในของใช้ภายในบ้านบางชนิดข้อควรระวัง: แม้มีกลิ่นชัดเจน แต่ก็สามารถทำลายเนื้อเยื่อทางเดินหายใจอย่างรวดเร็วการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เมื่อพบผู้ได้รับสารพิษเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจากสารเคมี โดยเฉพาะในกรณีที่มีการสูดดมสารพิษเข้าไป การปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่รวดเร็ว ถูกต้อง และมีลำดับขั้นตอน จะสามารถช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไปนี้คือ 4 ขั้นตอนพื้นฐานในการปฐมพยาบาลผู้ได้รับสารพิษจากการสูดดม ซึ่งควรเรียนรู้และจดจำไว้ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เมื่อพบผู้ได้รับสารพิษขั้นตอนที่ 1: สัมผัสสารเคมี – ล้างร่างกายทันทีหากสงสัยว่าผู้ป่วยมีการสัมผัสกับสารเคมีร่วมด้วย ไม่ว่าจะในรูปของไอระเหย ฝุ่น หรือของเหลว ควรรีบใช้น้ำสะอาดล้างร่างกายทันที โดยเฉพาะบริเวณที่เปื้อน เช่น มือ แขน ใบหน้า หรือเสื้อผ้าขั้นตอนที่ 2: เคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปยังบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทถ้าผู้ป่วยยังอยู่ในบริเวณที่มีสารพิษ เช่น ห้องปิด พื้นที่อับอากาศ หรือบริเวณรั่วไหลให้รีบเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกมายังจุดที่มีอากาศถ่ายเทดี เช่น หน้าต่างที่เปิดอยู่ โถงอาคาร หรือภายนอกอาคารโดยเร็วที่สุดขั้นตอนที่ 3: โทรแจ้งสายด่วน 1669การแจ้งทีมแพทย์ฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว คือกุญแจสำคัญในการช่วยเหลือ เมื่อโทรแจ้งหมายเลข 1669 ให้แจ้งข้อมูลเหล่านี้อย่างชัดเจนประเภทของสารเคมี (ถ้าทราบ)อาการของผู้ป่วยจำนวนผู้ประสบเหตุสถานที่เกิดเหตุโดยละเอียดขั้นตอนที่ 4: ประเมินการหายใจ – ทำ CPR หากจำเป็นให้สังเกตว่าผู้ป่วยยังหายใจอยู่หรือไม่ หากพบว่า:ไม่มีลมหายใจหัวใจหยุดเต้นไม่รู้สึกตัวและไม่มีการตอบสนองให้ทำการปั้มหัวใจ (CPR) ทันที โดยเฉพาะหากอยู่ในพื้นที่ห่างไกลหรือรอรถพยาบาลนานผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมจะสามารถทำ CPR ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้นถ้ายังไม่เคยฝึก CPR ควรเข้าร่วมการฝึกอบรมที่จัดโดยโรงพยาบาล หรือหน่วยงานฝึกอบรมด้านความปลอดภัยแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ใช้สารเคมีตามคำแนะนำของฉลากเสมอห้ามนำภาชนะเก็บสารพิษมาใช้ซ้ำกับของกินสวมหน้ากากป้องกันกลิ่นและไอระเหยทุกครั้งเมื่อใช้สารเคมีติดตั้งระบบระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพในพื้นที่ที่ใช้สารเคมีบ่อยจัดอบรมให้พนักงานทุกระดับรู้จักการใช้สารเคมีอย่างปลอดภัยสรุปเหตุการณ์เกี่ยวกับสารเคมีไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ทั้งอุบัติเหตุจากโรงงาน รถขนสารเคมีพลิกคว่ำ ไปจนถึงในบ้านที่ลืมปิดเตาแก๊ส ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ภายในวินาทีเดียว การมีความรู้คือการสร้างเกราะป้องกันที่ดีที่สุดหากคุณเป็นหัวหน้างาน ผู้ดูแลด้านความปลอดภัย หรือแม้แต่เจ้าของบ้านทั่วไป จงจำไว้ว่าความรู้ไม่เคยสิ้นเปลือง การปฐมพยาบาลอาจไม่ได้ทำให้หายทันที แต่ทำให้ “รอดทันเวลา”เซฟตี้อินไทย ฝากไว้ให้คิด — หยุดหายใจไม่กี่นาที อาจเปลี่ยนชีวิตไปตลอดกาลที่มา : กองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม'รู้โรคร้ายๆ วัยทำงาน"

อบรมการยศาสตร์ ppt,โครงการ การ ย ศาสตร์,การยศาสตร์ อาชีวอนามัย,หลักการ ย ศาสตร์ 10 ประการ,การยศาสตร์ 2565,การยศาสตร์คืออะไร,การยศาสตร์หมายถึง,การยศาสตร์ในการทำงาน, อบรมการยศาสตร์เซฟตี้อินไทย

รู้หรือไม่การยศาสตร์คือออะไร?

การยศาสตร์คืออะไรใหม่ล่าสุด2565รู้หรือไม่การยศาสตร์คืออะไร เซฟตี้อินไทย มีคำตอบการยศาสตร์คือวิชาการที่เป็นการปรับเปลี่ยนสภาพงานให้เหมาะสม กับผู้ปฏิบัติงานเพื่อความปลอดภัยและเพื่อสุขภาพต่างๆ ในการทำงานของพนักงาน ซึ่งทาง เซฟตี้อินไทย ได้มีการจัดอบรมที่เกี่ยวการยศาตร์มากถึง 2 หลักสูตรได้แก่ 1)การยศาสตร์กับการปฏิบัติงานเพื่อความปลอดภัย2)การยศาสตร์เพื่อเพิ่มผลผลิตและอาชีวอนามัยความปลอดภัยการยศาตร์ หมายถึงคือ วิชาการที่เป็นการปรับเปลี่ยนสภาพงานให้เหมาะสมกับผู้ปฏิบัติงานเพื่อความปลอดภัยและเพื่อสุขภาพต่างๆในการทำงานของพนักงาน ที่เกิดขึ้นจากสภาพการทำงานที่ไม่เหมาะสมเช่น อุณหภูมิที่สูง มีเสียงดัง มีแสงสว่างมากหรือเครื่องมือต่าง ๆที่มีขนาดไม่เหมาะสมกับพนักงานเช่น เก้าอี้ที่มีขนาดสูงเกินไปการเอื้อมหรือยกสิ่งของขึ้นสุดแขนหรือ งานที่ต้องก้มบ่อยฯ เป็นต้น4 ปัญหาของการยศาตร์ คืออะไร?1) การประสบอันตรายจากการยกหรือเคลื่อนย้ายของหนัก2)การประสบอันตรายจากท่าทางการทำงาน3)อาการเจ็บป่วยจากการเคลื่อนย้ายของหนัก4)อาการเจ็บป่วยจาการทำงาน ตัวอย่างการแก้ปัญหาด้านการยศาสตร์ที่ถูกต้อง?ตัวอย่างเช่น ท่าทางในการยกสิ่งของที่ผิดวิธีเช่น การก้มหลังยกซึ่งถือเป็นวิธีที่ผิด! ที่ถูกต้องควรใช้การย่อตัวแทนเพราะการก้มหลังนั้น จะส่งผลเสียต่อกระดูกสันหลังที่เป็นต้นเหตุของอาการปวดหลังหรืออีกตัวอย่างหนึ่งคือ ท่าทางการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะต้องมีการจัดท่าทางในการนั่งการปรับระดับความสูงของเก้าอี้ การปรับระดับของหน้าจอ เป็นต้นการยศาสตร์คืออะไรDOWLOADPPTXFREE.pdf

8วิธีปลอดภัยห่างไกลจากออฟฟิศซินโดรม, 8 วิธีปลอดภัยห่างไกลจาก

8วิธีปลอดภัยห่างไกลจากออฟฟิศซินโดรม

8 วิธีปลอดภัยห่างไกลจาก "ออฟฟิศซินโดรม"สาเหตุของ "ออฟฟิศซินโดรม"สาเหตุของ "ออฟฟิศชินโดรม" เกิดจากการทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งช้ำๆ เป็นเวลานาน หรืออยู่ในท่าทางการทำงานที่ไม่เหมาะสมต่อเนื่อง แล้วยังอาจเกิดจากปัจจัยอื่นได้ เช่นㆍสภาพแวดล้อมหรืออุปกรณ์ในการทำงนที่ไม่เหมาะสม เช่น โต๊ะหรือก้าอี้ที่ใช้ทำงานสูงหรือต่ำจนเกินไป ไม่เหมาะกับโครงสร้างของร่างกาย เป็นตัน ㆍสภาพร่างกายอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่ออาการเจ็บป่วย เช่น ความเครียดจากการทำงน การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ การได้รับสารอาหารไม่ครบ หรือทานอาหารไม่ตรงเวลา เป็นตันอาการเเบบไหน? เข้าข่าย "ออฟฟิศซินโดรม"ㆍปวดคอ บ่า ไหล่ ㆍปวดหัวㆍปวดตา ตาพร่าㆍปวดข้อมือ มือชา นิ้วล็อคㆍปวดถึงที่ขา เหน็บชา ㆍปวดหลัง8วิธีสร้างภูมิคุ้มกัน โรคออฟฟิศซินโดรม1.ไม่ควรนั่งอยู่ในท่าเดิมนานๆ2.นั่งทำงานในท่าที่ถูกต้อง 3.ไม่ควรเพ่งหน้าจอคอมนานๆ4.ปรับสภาพแวดล้อม ที่ทำงานให้น่าอยู่5.ออกกำลังกายคือยาวิเศษ 6.รักษาถ้วยการใช้ยา7.รักษาด้วยเวชศาสตร์ฟื้นฟู 8.รักษาถ้วย Shock Waveปรับเปลี่ยนสักนิดพิชิตออฟฟิศซินโดรมปรับถ้าในการทำงานเพื่อช่วยในการก่อให้เกิดอาการออฟฟิศซินโดรมㆍวางคีย์บอร์โให้อยู่ในระดับข้อศอกทำมุม90องศาㆍวางข้อมือให้ตรงคีย์บอร์ดไม่ บิดหรือ งอข้อมือㆍปรับหน้าจอให้อยู่ในระดับสายตาㆍนั่งหลังตรงให้หลังชิดกับพนักพิงㆍวางเท้าลงพื้นให้ขาทำมุม 90 องศา

ตัวอย่างลูกค้าเพียงบางส่วน
ที่ใช้บริการกับเซฟตี้อินไทย

01-BOSCH 02-KMCT 03-CASTEM 04-ExoticFood 05-TMOT 06-PCG 07-NPS 08-BEM 09-ANDRITZ 10-NSSPT 11-DAIKIN 12-BGF 13-OR 14-BOSCH 15-Niterra 16-EMERSON 17-AMTA-SPRING 18-akebono 19-TBGO 20-RICOH 21-KERRY 22-PEA 23-UCARE 24-sumitomo-electric 25-LOTTE 26-STEP 27-PANDORA 28-ITDP 29-SAMSUNG 30-FUJITRANS 31-TAKAHATA 32-AGC 33-HomePro 34-TOYODA 35-Johnson 36-TMOT 37-AO 38-NH 39-KATOEM 40-LAT 41-KOBELCO 42-KYB 43-ALBATROSS 44-KGK 45-TS 46-MISUBISHI 47-Jaroonsing 48-YUASA 49-MISUBISHI 50-EMERSON 51-PURE 52-BELZONA 53-CCP 54-ESCO 55-Nitto 56-BGC 57-elleair 58-BEM 59-LAEM 60-Canadian 61-CRAZY 62-THEMALL 63-BECC 64-JATCO 65-KUBOTA 66-AJ 67-TUKCOM 68-AMATA 69-MITR-PHOL 70-Fuji 71-KIKUWA 72-SANKYU 73-YOKOHAMA 74-JATCO 75-SHOWA 76-CENTRAL 77-HAIER 78-HTT 79-AGT 80-HONDA 81-SAMSUNG 82-FUJITSU 83-HUAWEI 84-YAMAHA 85-PEA 86-VOLVO 87-CANON 88-BRIDGE 89-jelly 90-Crane 91-TANARE

ติดตามเซฟตี้อินไทย
ได้ทุกช่องทางที่คุณสะดวก

ติดต่อสอบถามคลิกไลน์ Safety In Thai
ติดต่อ-สอบถาม กดตรงนี้ได้เลยค่ะ
ติดต่อ-สอบถาม กดตรงนี้ได้เลยค่ะ