Checklist สิ่งที่ จป. ต้องทำให้เสร็จก่อนสิ้นปี 2568 - เซฟตี้อินไทย
อบรมหลักสูตรฟรี สำหรับสมาชิก          คลิกที่นี่

บทความ

Checklist สิ่งที่ จป. ต้องทำให้เสร็จก่อนสิ้นปี 2568



การทำงานของเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน หรือที่ทุกคนเรียกกันติดปากว่า จป. เป็นบทบาทที่ต้องอาศัยทั้งความรู้ ความรอบคอบ และการติดตามงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงปลายปีที่เปรียบเสมือนด่านสุดท้ายก่อนปิดงบประมาณและก้าวสู่ปีใหม่ หลายโรงงานเริ่มตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังทั้งปี สรุปผลลัพธ์ และเตรียมแนวทางปรับปรุง ซึ่งทำให้หน้าที่ของ จป. มีความสำคัญมากขึ้นเป็นพิเศษในช่วงนี้

ปลายปี 2568 จึงไม่ใช่แค่การนับถอยหลังขึ้นปีใหม่ แต่เป็นช่วงเวลาที่ จป. ต้องตรวจสอบและสรุปงานด้านความปลอดภัยทั้งหมดให้เสร็จสมบูรณ์ เพื่อให้การดำเนินงานความปลอดภัยเป็นไปตามกฎหมาย มาตรฐาน และข้อกำหนดที่องค์กรของตนถือปฏิบัติ และเพื่อให้ปี 2569 เริ่มต้นอย่างเป็นระเบียบ ไม่มีงานค้างคาให้กังวลใจ

บทความนี้จะพาทุกท่านไล่ดู Checklist ฉบับจป. แบบละเอียด พร้อมมุมมองและความสำคัญในเชิงปฏิบัติ ว่าทำไมต้องทำแต่ละรายการ ต้องเตรียมอะไรบ้าง และมีข้อควรระวังอะไรที่ไม่ควรมองข้าม เหมาะสำหรับทั้ง จป. ใหม่ที่อยากเข้าใจภาพรวม และ จป. มากประสบการณ์ที่ต้องการตรวจทานความครบถ้วนของงานปลายปีของตัวเองอีกครั้ง

Checklist สิ่งที่ จป. ต้องทำให้เสร็จก่อนสิ้นปี 2568

หัวข้อที่ต้องทำก่อนสิ้นปีมักเกี่ยวข้องกับการรายงาน การเก็บข้อมูล การตรวจสอบรอบปี การประชุม การวิเคราะห์ และการสรุปเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย แต่ละรายการมีประโยชน์ทั้งต่อความปลอดภัยของพนักงาน ต่อแผนการปรับปรุงปีหน้า และต่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่เป็นข้อบังคับ ซึ่งถ้าตกหล่นเพียงอย่างเดียวก็อาจส่งผลให้โรงงานมีความเสี่ยงด้านกฎหมายหรือความปลอดภัยเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว

เราจึงแบ่งเนื้อหาออกเป็นหัวข้อสำคัญตาม Checklist ที่ จป. จำเป็นต้องทำให้แล้วเสร็จ ก่อนที่กำหนดต่างๆ จะเดินทางมาถึงท้ายปี

Checklist สิ่งที่ จป. ต้องทำให้เสร็จก่อนสิ้นปี 2568

Checklist สิ่งที่ จป. ต้องทำให้เสร็จก่อนสิ้นปี 2568

  • รายงาน จป.ว. (ครั้งที่ 2)
  • รายงานตรวจวัดสภาพแวดล้อมการทำงาน
  • แบบแจ้งการฝึกอบรม / พัฒนาความรู้ด้านความปลอดภัยเพิ่มเติม
  • รายงาน (รง.8) การแจ้งข้อมูลประกอบกิจการโรงงาน
  • รายงาน รว.8 การใช้งานหอเผาไหม้
  • รายงานการจัดการของเสีย/กาก/วัตถุอันตราย
  • ประชุมคปอ. รอบสุดท้ายของปี
  • เดินตรวจความปลอดภัยแบบ Safety Patrol
  • รายงานผลตรวจสอบเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องทดสอบ หรือเครื่องมือพิเศษ (BOD, COD, ONLINE ฯลฯ)
  • รายงานข้อมูลสารเคมีอันตราย: ชนิด ปริมาณ แหล่งที่มา วิธีการใช้ วิธีเก็บรักษา ฯลฯ
  • สรุปสถิติอุบัติเหตุทั้งปี

รายละเอียดเพิ่มเติ่ม สิ่งที่ จป. ต้องทำ

รายงาน จป.ว. (ครั้งที่ 2)

รายการที่หนึ่งคือ รายงาน จป.ว. ครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นเอกสารตามข้อกำหนดที่ต้องจัดทำปีละสองครั้งเพื่อแจ้งข้อมูลการดำเนินงานด้านความปลอดภัยต่อผู้บริหาร ตามกรอบกฎหมายที่กำหนดให้สถานประกอบกิจการต้องจัดให้มีการรายงานการทำงานของเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย เพื่อสะท้อนทั้งผลงาน ปัญหา และสิ่งที่ต้องปรับปรุง การจัดทำรายงานนี้ไม่ใช่เพียงเอกสารส่งงาน แต่เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้บริหารเข้าใจภาพรวมของความปลอดภัยในโรงงานอย่างเป็นระบบ ทั้งกิจกรรมความปลอดภัยที่จัดขึ้น การวิเคราะห์อุบัติเหตุ ข้อค้นพบจากการตรวจสอบ และแนวโน้มความเสี่ยงที่กำลังเพิ่มขึ้น การทำให้เสร็จในรอบสิ้นปีจึงเป็นเหมือนการรวบรวมภารกิจตลอดครึ่งปีที่ผ่านมาตีแผ่ออกมาอย่างชัดเจน

รายงานตรวจวัดสภาพแวดล้อมการทำงาน

รายการถัดมาคือ รายงานตรวจวัดสภาพแวดล้อมการทำงาน ได้แก่ ความร้อน ความดังของเสียง แสงสว่าง ความสั่นสะเทือน สารเคมี และปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ซึ่งเป็นข้อกำหนดตามประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน การตรวจวัดนี้มักดำเนินการปีละครั้งหรือสองครั้งตามประเภทอันตรายของงาน การสรุปผลปลายปีจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการวางแผนปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานในปีถัดไป เช่น หากพบว่าระดับเสียงยังเกินค่ามาตรฐาน จำเป็นต้องวางแผนติดตั้งฉนวนกันเสียงเพิ่มเติม หรือถ้าค่าความร้อนสูงเกินไปอาจต้องวางระบบระบายอากาศให้ดีกว่าเดิม การนำข้อมูลเหล่านี้มาบันทึกอย่างครบถ้วนและส่งเสริมให้โรงงานปรับปรุงจึงเป็นหัวใจหลักของงาน จป.

แบบแจ้งการฝึกอบรม / พัฒนาความรู้ด้านความปลอดภัยเพิ่มเติม

หัวข้อถัดมาเป็นงานเอกสารเกี่ยวกับการฝึกอบรมด้านความปลอดภัย ได้แก่ แบบแจ้งการฝึกอบรมหรือพัฒนาความรู้ของพนักงาน ซึ่งปัจจุบันหลายโรงงานมีการจัดอบรมหลายหลักสูตร เช่น อบรมดับเพลิง อบรมปฐมพยาบาล อบรมความปลอดภัยการทำงานบนที่สูง อบรมการใช้สารเคมี ฯลฯ ผู้ประกอบการต้องรายงานให้ถูกต้องว่ามีการฝึกอบรมใครบ้าง จำนวนกี่คน เนื้อหาตรงตามหลักเกณฑ์หรือไม่ และมีเอกสารยืนยันครบถ้วนหรือยัง การตรวจสอบให้ครบก่อนสิ้นปีจะช่วยจัดทำสรุปการอบรมประจำปี และช่วยให้วางแผนหลักสูตรใหม่ในปี 2569 ได้อย่างเหมาะสม

รายงาน (รง.8) การแจ้งข้อมูลประกอบกิจการโรงงาน

ขั้นตอนต่อมาคือ รายงานตามแบบ รง.8 ซึ่งเป็นการแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับกิจการโรงงาน รวมถึงการใช้พลังงาน การปล่อยมลพิษ การจัดการของเสีย และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมมลพิษที่ต้องส่งให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม การทำรายงานนี้ให้ถูกต้องและตรงเวลาไม่เพียงเป็นเรื่องของกฎหมาย แต่ยังเป็นภาพลักษณ์องค์กรต่อภาครัฐและสังคม เนื่องจากเป็นการสะท้อนว่าโรงงานดูแลด้านสิ่งแวดล้อมได้ดีเพียงใด หากข้อมูลคลาดเคลื่อนหรือไม่ครบถ้วน อาจเกิดปัญหาด้านการตรวจสอบในอนาคตตามมาได้


รายงาน รว.8 การใช้งานหอเผาไหม้

รายการถัดมาเกี่ยวข้องกับ รายงาน รว.8 ซึ่งเป็นเอกสารที่เกี่ยวกับการใช้งานเตาเผาไหม้หรือระบบกำจัดของเสียด้วยความร้อน ในหลายโรงงานที่มีการเผาสารเคมีหรือวัสดุอันตรายต้องทำตามข้อบังคับนี้อย่างเคร่งครัดเพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องทั้งความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม หากละเลยอาจเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมโดยไม่ตั้งใจ

รายงานการจัดการของเสีย/กาก/วัตถุอันตราย

จากนั้นมาถึงรายการที่หลายโรงงานให้ความสำคัญ คือ รายงานการจัดการวัตถุดิบ กากของเสีย และผลิตภัณฑ์ที่เป็นอันตราย ซึ่งตามกฎหมายทุกสถานประกอบการต้องเก็บข้อมูลชนิด สถานะ ปริมาณ การเคลื่อนย้าย การกำจัด และผู้รับกำจัดอย่างถูกต้อง การสรุปงานในช่วงสิ้นปีจึงเป็นการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทั้งปีว่ามีความคลาดเคลื่อนหรือไม่ เช่น ปริมาณที่ใช้ในกระบวนการผลิตสอดคล้องกับปริมาณที่รับเข้าหรือไม่ กากของเสียถูกกำจัดโดยบริษัทที่ได้รับอนุญาตหรือไม่ และมีเอกสารกำกับครบถ้วนหรือไม่ การตรวจสอบให้ครบถ้วนจะช่วยลดความเสี่ยงเรื่องการถูกตรวจสอบย้อนหลังจากหน่วยงานรัฐ

ประชุมคปอ. รอบสุดท้ายของปี

นอกจากนี้ การประชุมคณะกรรมการความปลอดภัยหรือ คปอ. รอบสุดท้ายของปี ก็เป็นหัวข้อที่สำคัญมาก เป็นการประชุมเพื่อทบทวนทั้งปีว่ามีอะไรที่สำเร็จ ปัญหาใดที่ยังคงอยู่ และแผนปีต่อไปควรเดินไปทิศทางไหน โดยถือเป็นส่วนของระบบการจัดการความปลอดภัยที่ดีตามหลักสากล การประชุมครั้งนี้จึงควรมีข้อมูลครบ ไม่ว่าจะเป็นสถิติอุบัติเหตุ ความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ผลงานโครงการความปลอดภัย และข้อเสนอแนะจากทุกฝ่าย การสรุปอย่างรอบด้านจะทำให้แผนปีถัดไปมีทิศทางชัดเจนและเหมาะสมกับสภาพความเสี่ยงจริงในโรงงาน

เดินตรวจความปลอดภัยแบบ Safety Patrol

ต่อมาเป็นภารกิจภาคสนามที่สำคัญ คือ การเดินตรวจความปลอดภัยแบบ Safety Patrol ซึ่งมักเน้นตรวจพื้นที่เสี่ยง เครื่องจักร การสวมอุปกรณ์ป้องกันอันตราย พฤติกรรมการทำงานที่ปลอดภัย และสภาพแวดล้อมโดยรวม ช่วงปลายปีถือเป็นโอกาสดีในการตรวจรอบใหญ่เพื่อบันทึกเปรียบเทียบกับข้อมูลต้นปีว่ามีความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นเพียงใด หรือมีจุดใดที่กลับมาเสี่ยงอีกครั้งและควรรีบแก้ไข ก่อนโรงงานจะหยุดยาวหรือก่อนเข้าสู่ปีใหม่ที่อาจมีสารเคมีหรือวัตถุอันตรายค้างอยู่ในพื้นที่ จึงเป็นเหตุผลที่หลายโรงงานให้ความสำคัญกับ Safety Patrol ช่วงปลายปีเป็นพิเศษ

รายงานผลตรวจสอบเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องทดสอบ หรือเครื่องมือพิเศษ (BOD, COD, ONLINE ฯลฯ)

งานสำคัญอีกงานคือ รายงานผลการตรวจสอบเครื่องจักร เครื่องมือ หรืออุปกรณ์พิเศษ เช่น เครื่องทดสอบ BOD, COD, เครื่องมือวัดสารเคมี หรือระบบออนไลน์ของโรงงาน การตรวจสอบประจำปีเป็นข้อบังคับเพื่อให้มั่นใจว่าการตรวจวัดคุณภาพน้ำทิ้ง อากาศเสีย และข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมมีความถูกต้องน่าเชื่อถือ การสรุปผลปลายปีช่วยให้โรงงานมองเห็นแนวโน้มด้านสิ่งแวดล้อมว่ามีค่าเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด ต้องปรับระบบไหนเพิ่มเติมหรือไม่ และช่วยจัดทำรายงานที่จะต้องส่งให้หน่วยงานกำกับดูแลได้สะดวกขึ้น

รายงานข้อมูลสารเคมีอันตราย ชนิด ปริมาณ แหล่งที่มา วิธีการใช้ วิธีเก็บรักษา ฯลฯ

อีกหนึ่งหัวข้อคือ รายงานข้อมูลเกี่ยวกับสารเคมีอันตราย เช่น ชนิดของสารเคมี ปริมาณที่ใช้ ปริมาณคงคลัง วิธีการเก็บรักษา วันที่รับเข้า แหล่งที่มา และข้อมูลด้านความปลอดภัยของสารเคมี การสรุปข้อมูลนี้ทุกสิ้นปีจะช่วยให้โรงงานวางแผนจัดซื้อ วางแผนจัดเก็บ และจัดทำบัญชีสารเคมีตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ต้องจัดทำ SDS ให้ครบหรือไม่ ต้องมีป้ายเตือนเพิ่มในจุดใด และต้องตรวจสอบสภาพคลังสารเคมีว่ามีการเสื่อมสภาพหรือมีภาชนะชำรุดหรือไม่ นอกจากนี้ยังรวมถึงประเด็นด้านการป้องกันเหตุฉุกเฉินเพราะข้อมูลเหล่านี้เป็นพื้นฐานของแผนรับมือกรณีเกิดการรั่วไหลหรือเพลิงไหม้

สรุปสถิติอุบัติเหตุทั้งปี

สุดท้ายคือการสรุปสถิติการประสบอันตรายตลอดปี ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของงานด้านความปลอดภัย ตัวเลขและข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้โรงงานวิเคราะห์ความเสี่ยงได้ว่า พื้นที่ใดเกิดอุบัติเหตุบ่อย สาเหตุหลักมาจากพฤติกรรม การจัดการ หรืออุปกรณ์ ผลจากการอบรมมีผลต่อพฤติกรรมของพนักงานหรือไม่ จุดใดต้องปรับปรุงและควรให้ความสำคัญในปีหน้า การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและนำเสนออย่างถูกต้องจะช่วยให้คณะกรรมการความปลอดภัยและผู้บริหารกำหนดทิศทางการปรับปรุงได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

เมื่อรวมทุกหัวข้อเข้าด้วยกัน เราจะเห็นภาพว่างานที่ จป. ต้องทำปลายปีนั้นครอบคลุมทั้งมิติของกฎหมาย การควบคุมความเสี่ยง การบริหารจัดการข้อมูล และการรายงานต่อองค์กรและหน่วยงานรัฐ จึงไม่ใช่แค่การปิดงาน แต่เป็นการประเมินทั้งปีว่าระบบความปลอดภัยของโรงงานมีประสิทธิภาพเพียงใด และต้องพัฒนาเพิ่มเติมในจุดใดบ้าง

หลักคิดแบบดั้งเดิมของงานความปลอดภัยยังบอกเราด้วยว่า การทำงานแบบมีระบบคือหัวใจของความปลอดภัยอย่างยั่งยืน และการสรุปงานประจำปีคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชี้ให้เห็นจุดแข็ง จุดอ่อน และเป้าหมายของปีถัดไป

สรุป

การทำ Checklist เหล่านี้จึงไม่ใช่เพียงงานที่ต้องทำตามหน้าที่ แต่เป็นการวางรากฐานสำคัญสำหรับปีต่อไปของทุกโรงงาน ยิ่งตรวจสอบอย่างละเอียดและเป็นระบบมากเท่าไร ความเสี่ยงก็จะลดลงมากเท่านั้น และองค์กรก็สามารถก้าวไปสู่มาตรฐานความปลอดภัยที่สูงขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง

หาก จป. สามารถจัดการงานทั้งหมดนี้ได้ครบถ้วนก่อนสิ้นปี ก็ถือว่าเป็นการปิดฉากปี 2568 อย่างสวยงาม และพร้อมเปิดปี 2569 ด้วยระบบความปลอดภัยที่มั่นคงและชัดเจนมากกว่าเดิม หากโรงงานต้องการเอกสารประกอบเพิ่มเติม หรือแบบฟอร์มรายงานต่างๆ สามารถแจ้งได้ แอดยินดีช่วยเพิ่มเติมเพื่อให้การทำงานปลายปีเป็นเรื่องง่ายขึ้นสำหรับทุกท่านในสายงานความปลอดภัย เซฟตี้อินไทยพร้อมสนับสนุนทุกก้าวของ จป. ไทยเสมอครับ

อบรม จป. หัวหน้างาน ชลบุรี
เปิดแล้ว!!อบรมจป.หัวหน้างาน,จป.บริหาร จองอบรมตอนนี้

Comments


businessman

ติดต่อสอบถามคลิกไลน์ Safety In Thai
ติดต่อ-สอบถาม กดตรงนี้ได้เลยค่ะ
ติดต่อ-สอบถาม กดตรงนี้ได้เลยค่ะ